google search

21 ตุลาคม 2011 - วันสิ้นโลกตามพระคริสตธรรมคัมภีร์ ?

21 ตุลาคม 2011 - วันสิ้นโลกตามพระคริสตธรรมคัมภีร์ ?

สำหรับผู้สนใจคำพยากรณ์ หรือการตีความ ซึ่งมีมากหลายกลุ่ม แต่ขอเสนอกลุ่ม
Familyradio ก่อนเพราะว่าเวลามันใกล้สุดนั่นเอง คือ 2011 กลุ่ม Familyradio
นี้เป็นคริสเตียนกลุ่มหนึ่งที่พยามทำนาย คำณวน วันเวลาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์ ซึ่งก็มีผิดและพลาดมาหลายยุค แต่สำหรับในปี 2011 นี้พวกเขาใช้คำว่า ฟันธง 100% คือ
ไม่เหมือนปีก่อน ๆ ที่เคยผิดมาเขาใช้คำว่า อาจจะ หรือ น่าจะ หรือ คาดว่า เช่น พวกเขาเคยคาดว่าวันสิ้นโลกคือ 1994? ซึ่งไม่แน่ใจจึงใ่ส่เครื่องหมาย ? เอาไว้้ข้างหลัง
แต่ 2011 นี่คือชัวร์

ต่อไปนี้เป็นเค้าโครงอย่างย่อ ๆ ของ Familyradio ขอนำมาเรียบเรียงบางส่วนใหม่ ส่วนรายละเอียดลงลึกในแต่ล่ะส่วนจะนำมาเสนอแยกย่อยทีหลังในตอนที่ 2,3,4,...
รายละเอียดเจาะลึกท่านหาอ่านได้ที่ http://www.familyradio.com/

Familyradio ตอนที่ 1

21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 วันแห่งการรับผู้เชื่อในพระคริสต์ว่าเป็นผู้ไถ่บาปออกไปจากโลกนี้ (Rapture) วันแห่งการเริ่มการพิพากษาแผ่นดินโลกด้วยภัยพิบัติ

21 พค - 21 ตค. = 153 วัน ของ "นรกบนดิน"

และ "21 ตุลาคม ค.ศ. 2011" วันสิ้นสุดโลก หรือวันที่พระคริสต์กลับมาครั้งที่สองเพื่อยุติ สิ้นสุดโลกนี้

พระคัมภีร์ได้แสดงให้เห็นถึงความลับที่ซ่อนอยู่ตามช่วงระยะเวลาในประวัติศาสตร์ ข้อมูลนี้ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนเพราะพระเจ้าได้เก็บความลับเกี่ยวกับวันสิ้นโลกเอาไว้มิให้ผู้ใดล่วงรู้
ซึ่งเราสามารถอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในหนังสือดาเนียล ดังที่กล่าวนี้

ดาเนียล 12:4 แต่ตัวเจ้า โอ ดาเนียลเอ๋ย จงปิดถ้อยคำเหล่านั้นไว้ และประทับตราหนังสือนั้นเสีย จนถึงวาระสุดท้ายคนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมาและความรู้จะทวีขึ้น"
ดาเนียล 12:9 พระองค์ตรัสว่า "ดาเนียลเอ๋ย ไปเถอะ เพราะว่าถ้อยคำเหล่านั้นก็ถูกปิดไว้แล้วและถูกประทับตราไว้จนถึงวาระสุดท้าย"

ความหมายในดาเนียลนี้ คือ ความลับแห่งการตีความและล่วงรู้วันเวลานั้นถูกปิดไว้ ไม่มีผู้ใดจะอ่านเข้าใจหรือตีความได้อย่างถ่องแท้ว่าคืออะไรจนรู้คำตอบได้จนกว่าจะถึงเวลาที่พระเจ้าต้องการจะบอก
และได้บอกเฉพาะกับผู้เชื่อเท่านั้น คือหมายความว่าผู้เชื่อจริงเท่านั้นที่จะได้ล่วงรู้ความลับและเป็นตัวแทนเปิดเผยถ้อยคำเหล่านี้แก่ผู้อื่นและโลกนี้ทั้งหมดในเวลาที่สมควร
ซึ่งแน่นอนว่าถึงอย่างไรเสียผู้ไม่เชื่อก็ย่อมไม่เชื่ออยู่ดี ข่าวสารแห่งความลับนี้ มีเพื่อผู้คนหลงหายและผู้ที่จะได้เชื่อในเวลานั้นหรือผู้ที่ถูกเลือกไว้

คำถาม เหตุใดพระเจ้าจึงทำการเปิดเผยแผนการณ์หรือกรอบเวลาให้กับผู้เชื่อในยุคนี้หรือศตวรรษนี้ ไม่ใช่ยุคก่อน ๆ
ตอบ - เพราะยุคนี้เป็นยุคที่เจริญก้าวหน้าในด้านการสื่อสารต่าง ๆ ซึ่งเป็นตามคำพยากรณ์ว่าเป็นยุคที่คนจะวิ่งไปมา ความรู้จะทวีคูณ พระเจ้าใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการเปิดเผยสิ่งที่ถูกปิดไว้ เพราะหลายอย่างมันต้องใช้เวลาซึ่งเวลานี้ก็สุกงอมมากพอที่คนจะเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ในพระคัมภีร์ทั้งหมด หรือเป็นยุคที่คนจะฉลาดพอที่จะเข้าใจ
และรับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ได้ทั้งหมด และนำไปสู่การเปิดเผยความลับในเรื่องกาลเวลาของโลกนับจากอดีตจนวันสิ้นโลก

อาโมส 3:7 แท้จริงองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจะมิได้ทรงกระทำอะไรเลย โดยมิได้เปิดเผยความลึกลับให้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ คือผู้พยากรณ์
ปัญญาจารย์ 8:5 …จิตใจของคนที่มี สติปัญญาก็เข้าใจทั้งวาระและคำตัดสิน

สรุปช่วงเวลาของเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ตามพระคัมภีร์
1. 11,013 ปีก่อนคริสตกาล การสร้าง พระเจ้าได้สร้างโลกและมนุษย์ขึ้นมา (อาดัมและอีฟ )

2. 4,990 ปีก่อนคริสตกาล น้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์ (6,023 ปีจากวันสร้างโลก) มีเพียง 8 ชีวิตคือ โนอาห์ ภรรยา ลูกชายทั้งสามและภรรยาของพวกเขาเท่านั้นที่มีชีวิตรอด

3. 7 ปีก่อนคริสตกาล เป็นปีที่พระเยซูคริสต์กำเนิด (11,006 ปีจากวันสร้างโลก )

4. ค.ศ.33 ปีที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงบนไม้กางเขน และยุคของคริสตจักรได้เริ่มต้นขึ้น ( 11,045 ปี จากวันสร้างโลก หรือ 5,023 ปีจากน้ำท่วมโลก )

5. ค.ศ.1988 เป็นปีที่ครบ 13,000 ปีของประวัติศาสตร์โลก(หรือ 13 วันสำหรับพระเจ้า)
ปีนี้ได้สิ้นสุดยุคของคริสตจักร(End of Church Age)และเริ่มช่วงเวลาแห่งความยากลำบากครั้งใหญ่ของโลก (Great Tribulation)
และจะสิ้นสุดในปีที่ 23 (กินเวลา 8,400 วัน) 1988+23=2011

6. ค.ศ.1994 เป็นปี Jubilee และวันที่ 7 กันยายน ครบ 2,300 วันแรก(6 ปี) จากปี 1988 ที่เริ่ม Great Tribulation (13,006 ปีจากวันสร้างโลก )
2,300 นี้มาจาก ดาเนียล 8:14 ท่านผู้นั้นตอบข้าพเจ้าว่า "อยู่นานสองพันสามร้อยวัน แล้วสถานบริสุทธิ์นั้นจะได้รับการชำระ"

7. ค.ศ.2011 วันที่ 21 พฤษภาคม เกิดการ Rapture ซึ่งครบ 8,400 ของความทุกข์เวลาลำบาก (17 ปีจาก 1994) และ 21 ตุลาคม 2011 โลกจะถูกเพลิงเผาผลาญด้วยไฟวอดวายสิ้น

ปฐมกาล 7:4 เพราะว่าอีก 7วันเราจะบันดาลให้ฝนตก บนแผ่นดินโลก 40 วัน 40 คืน และสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวงที่เราสร้างมานั้นเราจะทำลายเสียจากพื้นแผ่นดินโลก

ที่พระเจ้าตรัสคำพูดเหล่านั้นว่ามีเวลา 7 วันที่เหลืออยู่เพื่อให้โนอาห์ ครอบครัวและสัตว์ต่าง ๆ ได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยบนเรือไม้ แต่ทางด้านศาสนศาสตร์หรือหลักการทางจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกันที่ซ่อนอยู่ระหว่าง
พระคัมภีร์เก่ากับพระคัมภีร์ใหม่ก็คือ พระเจ้ากำลังตรัสแก่ผู้คนบนโลกและเป็นการประกาศว่ามนุษยชาติที่มีบาปมีเวลา "7,000 ปี" เพื่อได้รับการไถ่บาปให้รอดโดยพระเยซูคริสต์ แล้วพวกเรารู้ได้อย่างไรเล่า?
เรารู้เรื่องนี้ได้โดยจากพระคัมภีร์นี้

2 เปโตร 3:6-8 โดยเหตุเหล่านั้นพระองค์จึงได้ทรงบันดาลให้น้ำมาท่วมทำลายโลกที่มีอยู่ในเวลานั้น แต่ว่าท้องฟ้าอากาศและแผ่นดินโลกที่อยู่เดี๋ยวนี้ พระองค์ทรงเก็บงำไว้โดยคำตรัสนั้นสำหรับให้ไฟเผา
คือเก็บไว้จนถึงวันทรงพิพากษาและวันพินาศแห่งบรรดาคนอธรรม แต่พวกที่รัก อย่าลืมข้อนี้เสีย คือวันเดียวขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเหมือนกับ 1,000ปี และ 1,000 ปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว

พระคัมภีร์ตอนนี้นั้นสำคัญอย่างยิ่ง สองสามตอนแรกพระเจ้าได้ให้เราได้รู้ถึงวันโลกาวินาศจากน้ำท่วมโลกในสมัยของโนอาห์ และเรายังได้พบคำเตือนที่น่าสนใจที่ว่าเราไม่ควร “โง่เขลาหรือไม่รู้”
ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งก็คือ 1 วันนั้นหรือก็คือ 1,000 ปี และ 1,000 ปีก็คือ 1 วันนั่นเอง ทันทีที่ได้ติดตามข้อมูลเล็กน้อยนี้ซึ่งได้กลายมาเป็นคำอธิบายอย่างชัดแจ้งว่าจุดจบของโลกจะเกิดจากเพลิงเผาผลาญ
แล้วพระเจ้าต้องการจะบอกอะไรกับเราด้วยการระบุว่า 1 วันก็คล้ายกับ 1,000 ปี ?

ตั้งแต่ได้ค้นพบปฏิทินพระคัมภีร์ของประวัติศาสต์บนหน้าพระคัมภีร์ เราก็ได้รู้ว่าน้ำท่วมโลกในสมัยของโนอาห์นั้นเกิดขึ้นในปี 4990 ก่อนคริสตกาล
ซึ่งพระเจ้าได้บอกแก่โนอาห์ว่ายังมีเวลาเหลืออีก 7 วันจนกว่าจะถึงวันที่น้ำจะท่วมโลก ถ้าเราจะแทน 1,000 ปีกับแต่ละวันใน 7 วันนั้น
เราก็จะได้เวลาเป็น 7,000 ปี และจากปี 4990 ปีก่อนคริสตกาล นับไปอีก 7,000 ปีจะบรรจบลงที่ปี คริสตศักราช 2011

4990 + 2011 - 1 = 7000

หมายเหตุ : เมื่อนับจากวันตามพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมมายังวันตามพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ จะลบออกหนึ่งปีเสมอเพราะไม่มีปีศูนย์

เป็นเรื่องปกติที่ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าแท้จริงแล้วนั้นจะหยั่งรู้หรือเข้าใจได้ถึงช่วงเวลาของวาระสุดท้ายของโลกว่าจะมาเมื่อไหร่ อย่างไร และต้องทำอะไร ดังเช่นโนอาห์
พระเจ้าได้เตือนโนอาห์ 7 วันก่อนน้ำท่วมซึ่งเป็นการทำลายโลกด้วยน้ำ พระเจ้าก็ได้เตือนมนุษย์ต่อมาอีก 7,000 ปีก่อนที่จะทำลายโลกนี้ด้วยไฟ ก็คือ ปี ค.ศ. 2011
เป็นช่วงเวลา 7,000 ปีแห่งการกลับใจจากบาปและแสวงหาพระเจ้าของมนุษยชาติเพื่อความรอด ดังเช่นที่โนอาห์ทำ อย่าลืมว่าพระคัมภีร์พูดชัดเจนว่า วันสิ้นโลกนั้นจะเหมือนกับวันน้ำท่วมโลกในยุคโนอาห์

ก่อนหน้านั้นได้มีการกล่าวกันว่ายุคสมัยของคริสตจักรจะมาถึงจุดจบในปี ค.ศ. 1988 ซึ่งการเกิดยุดสมัยของคริสตจักรนั้นเริ่มต้นขึ้นในวันเพนเทคอสท์ (22 พฤษภาคม) ในปี ค.ศ. 33
และในอีก 1955 ปีต่อมา ยุคสมัยของคริสตจักรก็มาถึงบทสรุปในวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันก่อน เพนเทคอสท์ (22 พฤษภาคม) ปี ค.ศ. 1988
พระคัมภีร์กล่าวว่าวาระสุดท้ายยุคสมัยของคริสตจักรจะเกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับภัยพิบัติครั้งใหญ่ Great Tribulation และการพิพากษาจะเริ่มในคริสตจักรก่อน !! ซึ่งมันได้เริ่มมานับจากปี 1988
แล้วและกำลังไปสู่การพิพากษาแผ่นดินโลกหรือโลกนอกคริสตจักร

ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 พระเจ้าได้ยุติคริสตจักรและการชุมนุมรวมกลุ่มต่าง ๆ ของเหล่าคริสตชนผู้เชื่อ พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าได้ละทิ้งคริสตจักรไปสิ้น
(ในประเด็นนี้ข้าพเจ้าคิดน่าจะหมายความว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้อยู่ในคริสตจักรที่ปกครองโดยมนุษย์ในแบบศาสนพิธีจอมปลอม ถือศาสนาเป็นพิธี แต่อยู่กับผู้เชื่อ เพราะผู้เชื่อก็คือคริสตจักรนั่นเอง)
และเหล่าบรรดาผีห่าซาตาน มนุษย์บาปได้เข้ามายึดครองคริสตจักรในช่วงเวลานั้น ๆ พระคัมภีร์สอนเราว่าช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัวของการพิพากษาต่อคริสตจักรเหล่านั้นจะกินเวลายาวนาน 23ปี (8,400 วัน) ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่
วันที่ 21 พค.1988 จนกระทั่งถึง 21 พค.2011 ข้อมูลนี้ถูกค้นพบในพระคัมภีร์ที่มีข้อมูลครบถ้วนที่กล่าวถึงเรื่อง 7,000 ปีจากเหตุการณ์น้ำท่วม
ดังนั้น เรารู้ได้ว่า 23 ปีเต็มของความลำบากยากเข็ญจากภัยพิบัติครั้งใหญ่จะสิ้นสุดลงที่วันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 วันที่นี้เป็นวันแน่นอนที่ภัยพิบัติจะมาถึงจุดจบ
และยังเป็นจุดที่คล้ายคลึงกันมาก ๆ กับเหตุการณ์ 7,000 ปีจากวันน้ำท่วมโลกในสมัยโนอาห์อีกด้วย พระเจ้าได้ทรงปิดประตูเรือไม้ในวันที่ 17 เดือนที่ 2 ของปฏิทินโนอาห์

ปฐมกาล 7:11 เมื่อโนอาห์มีชีวิตอยู่ได้ 600ปี ในเดือนที่ 2 วันที่ 17ของเดือนนั้น ในวันเดียวกันนั้นเอง น้ำพุทั้งหลายที่อยู่ที่ลึกใต้บาดาลก็พลุ่งขึ้นมา และช่องฟ้าก็เปิดออก

เรายังค้นพบอีกว่าในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เป็นวันสิ้นสุดของช่วงเวลาภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย
ความสัมพันธ์ที่ "เหนียวแน่น" ระหว่างเดือนที่ 2 และวันที่ 17 ของปฏิทินของโนอาห์และวันที่ 21 พค.2011 ของปฏิทินเกรกอเรียนที่เราใช้ยังมีอยู่ ซึ่งความสัมพันธ์นี้ยังไม่พร้อมให้เราสามารถมองเห็นได้จนกระทั่งเราค้นพบได้ว่ามีอีกหนึ่งปฏิทินที่เราควรคำนึงถึง คือปฏิทิน ฮีบรู (หรือพระคัมภีร์) นั่นเอง วันที่ 21 พค.2011 เกิดมีวันที่ 17 ของเดือนที่ 2 ของปฏิทินฮีบรู ด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้ากำลัง "ยืนยัน" กับพวก
เราว่าพวกเรามีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้นในเรื่องของ ช่วงเวลา 7,000 ปีจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลก วันที่ 21 พค.2011 จึงเสมือนเป็นวันที่ ๆ พระเจ้า ปิดประตูเรือไม้ของโนอาห์ จากข้อมูลเหล่านี้และข้อมูลเกี่ยวกับ
พระคัมภีร์อื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เราพบว่าวันที่ 21 พค. 2011 จะเป็นวันที่พระเจ้านำผู้เชื่อที่พระองค์ทรงเลือกไว้กลับไปหรือ Rapture ออกไปจากโลกนี้ และจะเป็นวันที่พระเจ้าปิดประตูต่อการไถ่บาปบนโลกใบนี้
(ประเด็นเรื่องที่ว่าปิดประตูความรอดโดยสิ้นเชิงหลังจาก Rapture นี้ข้าพเจ้าเองมีข้อขัดแย้ง แต่ขอไว้กล่าวภายหลังแล้วกัน) หลังจากนั้นจะเป็นการพิพากษาโลกนี้เป็นเวลา 5 เดือนก่อนสิ้นสุดโลกนี้

ปฐมกาล 7:24 น้ำไหลเชี่ยวบนแผ่นดินโลกเป็นเวลาหนึ่งร้อยห้าสิบวัน
(นี่คือเหตุการณ์น้ำไหลท่วมโลกสมัยโนอาห์หลังจากขึ้นเรือไปแล้วเป็นเวลา 150 วัน หรือ 5 เดือนตามปฎิทินฮีบรูซึ่งหนึ่งเดือนมี 30 วันเท่ากัน)
วิวรณ์ 9:3-5 มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก ได้ประทานอำนาจแก่ตั๊กแตนนั้น เหมือนกับอำนาจของแมงป่องแห่งแผ่นดินโลก และมีคำสั่งแก่มันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก
หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ แต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้นที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากของเขาเท่านั้น และไม่ให้ฆ่าคนเหล่านั้น แต่ให้ทรมานเขา 5 เดือน การทรมานนั้นเป็นการทรมานที่เหมือนกับถูกแมงป่องต่อย
1 เธสะโลนิกา 5:3 เมื่อเขาพูดว่า "สงบสุขและปลอดภัยแล้ว" เมื่อนั้นแหละความพินาศก็จะมาถึงเขาทันที เหมือนกับความเจ็บปวดมาถึงหญิงที่มีครรภ์ เขาจะหนีก็ไม่พ้น

5 เดือนหลังจากวันที่ 21 พค.2011 ตามปฏิทินปกติหรือนับไปได้ 153 วัน จะเป็นวันที่ 21 ตค. 2011 หรือเป็น 153 วันหรือ 5 เดือนของ "นรกบนดิน" หรือ "Hell on Earth" คือช่วงเวลาแห่งการพิพากษาของพระเจ้าในแผ่นดินโลกหลังจากรับผู้เชื่อพระคริสต์ออกไปแล้ว
ซึ่งจะเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงทุกประเภท เช่นพายุ และโดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่พระคัมภีร์บอกว่าจะรุนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนถึงขนาดทำให้
เมืองทุกเมืองในโลกนี้พังพินาศกลายเป็นซากปรักหักพังสิ้น และ
สงครามกลางเมือง กลีุยุค การเข่นฆ่า ไร้กฎหมาย ความวุ่นวายสารพัด บ้านแตกสาแหรกขาด ก็ตามมาหลังจากบ้านเมืองพังพินาศวอดวายสิ้นเพราะแผ่นดินไหวทำลายหมดแล้ว
ดังนั้น หลังจาก 21 พค. 2011 เป็นต้นไปคือนรกบนดินนั่นเอง และในวันที่ 21 ตค. 2011 นี้ยังเป็นวันสุดท้ายของการทำพิธีฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลตามพระคัมภีร์
(เป็นการรวมตัวกันเฉลิมฉลองซึ่งมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ) การชุมนุมเพื่อเฉลิมฉลองมักจะถูกจัดขึ้นในเดือนที่ 7ของปฏิทินฮีบรู วิธีที่พระเจ้าพูดถึงงานเลี้ยงนี้ในพระคัมภีร์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

อพยพ 23:16 …เจ้าจงถือเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บพืชผลปลายปี เมื่อเจ้าเก็บพืชผลจากทุ่งนาอันเป็นผลงานของเจ้า
อพยพ 34:22 จงถือเทศกาลสัปดาห์ คือเทศกาลเลี้ยงฉลองผลต้นฤดูเกี่ยวข้าวสาลี และถือเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บผลิตผลในปลายปี

ถึงแม้ว่าเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บผลผลิตซึ่งถูกกล่าวไว้ว่าเป็นงานฉลองซึ่งจัดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าในเดือนที่ 7 ของชาวฮีบรูนั้น ไม่ใช่ช่วงปลายปี แต่อย่างใด
ซึ่งเหตุผลนี้เองทำให้เชื่อได้ว่างานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นเป็นการฉลองให้กับวาระสุดท้ายของโลก วันที่ 21 ตค. 2011
จะเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลฉลองการเก็บผลิตผลและยังเป็นวันสุดท้ายของการคงอยู่ของโลกนี้ด้วย พระคัมภีร์ได้บรรยายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ตค.2011 หรือวันสิ้นโลกนี้ตามพระคัมภีร์ว่า

2 เปโตร 3:10 แต่ว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นจะ มาถึงเหมือนอย่างขโมยแอบย่องมาในเวลากลางคืน(Thief in the Night) และในวันนั้นท้องฟ้าจะล่วงเสียไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง
และโลกธาตุจะสลายไปด้วยความร้อนอันแรงกล้า และแผ่นดินโลกกับการงานทั้งปวงที่มีอยู่ในนั้นจะต้องไหม้เสียสิ้นด้วย

ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากให้ได้รับรู้ แต่ ได้โปรดเถิด มนุษย์ที่รัก ที่ต่างก็ได้รับการเตือนถึงเวลาของการไถ่บาปของพระคริสต์ที่กำลังจะถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว!
พระเจ้าได้ให้เวลาแก่โลกถึง 7,000 ปีนับจากวันน้ำท่วมโลกยุคโนอาห์ และขณะนี้เราเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจนกระทั่งถึงวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011
ก่อนที่เราจะรู้ เวลาก็ใกล้จะหมดลงเต็มทีแล้ว!!! เม็ดทรายที่เหลืออยู่ในนาฬิกาทรายของโลกนี้ใกล้จะหมดลงและจะไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไป ถึงแม้ว่ายังเหลือเวลาอีกน้อยนิด
แต่ในวันนี้ก็ยังมีพอความหวังที่บรรเจิดสำหรับใครบางคนอยู่เช่นกัน พระเจ้าทรงใช้เวลาไม่มากในการช่วยเหลือคน ๆ หนึ่ง ในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิตที่เต็มไปด้วยความบาปอย่างมหันต์
เช่น ขโมยที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนถูกช่วยเหลือไว้โดยพระคริสต์

ลูกา 23:42,43 แล้วคนนั้นจึงทูลพระเยซูว่า "พระองค์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในอาณาจักรของพระองค์" ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า
"เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม"
คนจำนวนมหาศาลปฏิเสธความจริงในพระคัมภีร์ข้อนี้และส่งผลให้เขาไม่ได้รับความรอดในที่สุดเพราะคิดว่า มันง่ายเกินไปที่คนบาปหนาเช่น โจรนี้สมควรจะได้เข้าสวรรค์ โดยการไถ่บาป ทั้ง ๆ ที่ความรอดนั้นได้รับง่ายมาก
หากเพียงผู้หนึ่งตัดสินใจที่จะกลับใจอย่างแท้จริงต่อพระเจ้าแค่นั้น ซาตานบอกว่าเป็นไปไม่ได้ มันง่ายเกินไป แต่พระเจ้าบอกว่าทุกสิ่งเป็นไปได้และง่ายมาก ๆ ท่านจะเลือกเชื่อซาตานหรือพระเจ้า?
ตัวอย่างของผู้คนที่ตัดสินใจในแง่บวกกับพระเจ้า เช่น

โยนาห์ 3:4-9 โยนาห์ตั้งต้นเดินเข้าไปในเมืองได้ระยะทางเดินวันหนึ่ง และท่านก็ร้องประกาศว่า “อีก 40 วัน นีนะเวห์จะถูกคว่ำ” ฝ่ายประชาชนนครนีนะเวห์ได้เชื่อพระเจ้า
เขาประกาศให้อดอาหาร และสวมผ้ากระสอบ ตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่สุดถึงผู้น้อยที่สุด กิตติศัพท์นี้ลือไปถึงกษัตริย์นครนีนะเวห์ พระองค์ทรงลุกขึ้นจากพระที่นั่ง ทรงเปลื้องฉลองพระองค์ออกเสีย
ทรงสวมผ้ากระสอบแทน และประทับบนกองขี้เถ้า พระองค์ทรงออกพระราชกฏษฏีกา ประกาศไปทั่วนครนีนะเวห์ โดยอำนาจกษัตริย์และบรรดาขุนนางทั้งหลายว่า “
คนหรือสัตว์ มาว่าฝูงสัตว์ใหญ่หรือฝูงสัตว์เล็ก ห้ามลิ้มรสสิ่งใด ๆ อย่าให้กินอาหาร อย่าให้ดื่มน้ำ ให้ทั้งคนและสัตว์นุ่มห่มผ้ากระสอบ ให้ตั้งจิตตั้งใจร้องทูลต่อพระเจ้า เออ
ให้ทุกคนหันกลับเสียจากการประพฤติชั่ว และเลิกการทารุณซึ่งมือเขากระทำ ใครจะรู้ได้ พระเจ้าอาจจะทรงกลับและเปลี่ยนพระทัย คล้ายจากพระพิโรธอันรุนแรงเพื่อว่าเราจะมิได้พินาศ ”

ชาวนีนะเวห์ไม่เสียเวลามานั่งถามคำถามต่อพระเจ้าต่าง ๆ นานา ๆ ว่าทำไม ทำไม และทำไม แต่เขาถามตัวเอง และวินิจฉัยความบาปและความประพฤติของตนแล้วก็กลับใจใหม่ เขาจึงรอดพ้นจากการพิพากษาไปได้
นี่คือหลักการและคำสอนที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดตอนหนึ่งในพระคัมภีร์ หากชาวโลกทำเช่นชาวนีนะเวห์ พระเจ้าอาจเปลี่ยนแผนการณ์ที่ตั้งไว้ก็ได้

นี้เป็นสิ่งที่หากเมื่อท่านได้อ่านและคิดแล้ว ท่านพิจารณาว่าเอาเองว่าจะตัดสินใจเช่นไร พระคัมภีร์กล่าวว่าสมัยน้ำท่วมโลกโนอาห์ คนทั้งหมดก็ไม่เชื่อว่าน้ำจะท่วมโลกได้ยกเว้นโนอาห์ โลกใหญ่มหาศาลเช่นนี้ จะมีน้ำจากไหนมาท่วมโลก และเช่นกันจะมีไฟจากไหนมาเผาผลาญโลกในวันที่ว่าได้
จะเกิดเหตุการณ์เช่นที่เปโตรกล่าวได้อย่างไร ธรรมชาติรอบตัวเราทุกวันนี้ก็ดูปกติไม่มีอะไรผิดปกติ นี่คือสิ่งที่ต้องครุ่นคิดพิจารณาเพราะมันส่งผลต่อชีวิตบั้นปลายอันเป็นนิรันดรของท่าน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รวมนางแบบนิตรยสาร,สาวน่ารักๆ

รวม photo girl sexy

รวม photo girl japan

รวมนางแบบญี่ปุ่น

รวม photo